Cookie Icon
Maintenance & Support: สาระสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูแลและสนับสนุนเว็บไซต์

Maintenance & Support: สาระสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูแลและสนับสนุนเว็บไซต์

• เขียนโดย ทีมงานนกฟ้า8 นาที
#Maintenance#Support#เว็บไซต์#บริการ#คำถามที่พบบ่อย

Maintenance & Support: สาระสำคัญที่ควรรู้

ในแพ็กเกจของเรา Starter และ Premium ไม่มี Maintenance ระบุไว้ ในขณะที่ Advanced มีการดูแล “Maintenance ฟรี 3 เดือน” ซึ่งอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า “Maintenance” ครอบคลุมอะไรบ้าง? และในแพ็กเกจ Starter/Premium ที่ไม่ได้ระบุ แปลว่าลูกค้าต้องดูแลเองทั้งหมดหรืออย่างไร? รวมถึงประเด็น “การสนับสนุน” (Support) ที่ระบุเป็นช่วงเวลาจำกัด เช่น อีเมล 30 วัน, อีเมล + แชท 60 วัน หรืออีเมล + แชท + โทร 90 วัน – เมื่อครบกำหนดแล้วจะเป็นอย่างไร? ด้านล่างนี้คือคำอธิบายอย่างละเอียด:


1) Maintenance ครอบคลุมอะไรบ้าง?

Maintenance โดยทั่วไปหมายถึงการดูแลเว็บไซต์หลังการส่งมอบ ให้ยังคงใช้งานได้ราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งในแต่ละโครงการจะมีขอบเขตแตกต่างกันไปตามความซับซ้อนของเว็บและสัญญาที่ตกลงกัน ตัวอย่างงาน Maintenance มีดังนี้:

  1. อัปเดต Security Patch

    • หากใช้ CMS หรือปลั๊กอิน (Plugin) บางตัว อาจต้องคอยอัปเดตแพตช์ด้านความปลอดภัย เมื่อมีเวอร์ชันใหม่ออกมา เพื่อป้องกันการถูกแฮก
    • หากเป็นเว็บที่เขียนโค้ดขึ้นมาเอง (Custom Code) อาจต้องตรวจสอบความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเป็นระยะ
  2. Backup ข้อมูล

    • สร้างสำเนา (Backup) ของโค้ดและฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พร้อมกู้คืนหากเกิดปัญหา เช่น เว็บล่มหรือข้อมูลเสียหาย
  3. ดูแลโค้ด (Code Maintenance)

    • แก้ไข Bug เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือปรับโค้ดให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเบราว์เซอร์/Library ในอนาคต
    • ตรวจเช็คประสิทธิภาพเว็บ (Performance) และปรับจุดที่อาจทำให้เว็บทำงานช้าลงเมื่อเวลาผ่านไป
  4. ปรับแก้ปัญหาเร่งด่วน

    • หากเว็บไม่สามารถออนไลน์ได้ เนื่องจากสาเหตุบางอย่าง (Hosting ล่ม, โดเมนมีปัญหา ฯลฯ) Maintenance จะช่วยวิเคราะห์และแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้

โดยรวมแล้ว Maintenance คือการ “เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหา” หลังการส่งมอบ เพื่อรักษาเว็บไซต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย


2) ทำไม Starter/Premium ไม่มี Maintenance ส่วน Advanced มี “ฟรี 3 เดือน”?

  • Starter/Premium:

    • เว็บไซต์มีขอบเขตงานเล็กหรือกลาง ใช้ทรัพยากรไม่มาก และไม่ซับซ้อนด้านโค้ดหรือปลั๊กอิน จึงอาจไม่จำเป็นต้องดูแลอย่างต่อเนื่องในสายตาของบางธุรกิจ
    • ลูกค้าส่วนใหญ่อาจสามารถดูแลเนื้อหาเองได้ระดับหนึ่ง หากไม่ใช่ Custom Web ขนาดใหญ่
    • หากเกิดปัญหาใหญ่ภายหลัง หรืออยากให้เราช่วยอัปเดต/ปรับปรุงเฉพาะจุด ก็สามารถจ่ายเป็นครั้ง ๆ หรือทำสัญญา Maintenance แยกต่างหากได้
  • Advanced:

    • เว็บไซต์มักมีความซับซ้อน มีฟีเจอร์เยอะ หรือเป็น Custom Code + UI/UX ที่ละเอียด จึงมีโอกาสเกิดการปรับแก้เล็ก ๆ น้อย ๆ ตามมาได้ในช่วงแรก
    • การให้ “Maintenance ฟรี 3 เดือน” เป็นการรับประกันว่าลูกค้าจะได้รับความอุ่นใจในช่วงเริ่มต้นใช้งาน เช่น แก้ Bug หรือปรับจุดเล็กน้อยได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
    • หลังจาก 3 เดือน หากต้องการดูแลต่อเนื่อง สามารถตกลงแผนการ Maintenance ระยะยาว (รายเดือน/รายปี) ตามปริมาณงานและงบประมาณ

3) แล้วถ้า Starter/Premium อยากได้ Maintenance ทำได้ไหม?

  • ได้แน่นอน แต่เราจะคิดค่าบริการ Maintenance เพิ่มเติมตามความเหมาะสม เช่น
    • รายครั้ง (per incident): เมื่อมีปัญหาแจ้งมา เราจะประเมินค่าใช้จ่ายในการแก้ไข
    • รายเดือน/รายปี (Maintenance Package): ตกลงกันว่าจะมีการ Backup, Update, ตรวจสอบโค้ด หรือแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตามขอบเขตที่กำหนดไว้ โดยมีค่าใช้จ่ายคงที่ในแต่ละเดือน

จำนวนค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับ ความซับซ้อนของเว็บไซต์, ความถี่ในการอัปเดต/การตรวจสอบ, และ ทรัพยากรที่ต้องใช้ เช่น ถ้าต้องการให้ทีมเฝ้าระวัง 24/7 แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายต้องสูงกว่าเว็บที่ต้องการแค่ Backup และแก้ไขเล็ก ๆ น้อย ๆ เดือนละครั้ง


4) การสนับสนุน (Support) หมดอายุแล้วทำไงต่อ?

  • Support ระยะเวลาสั้น (Starter/Premium/Advanced)

    • Starter = อีเมล 30 วัน, Premium = อีเมล + แชท 60 วัน, Advanced = อีเมล + แชท + โทร 90 วัน
    • ในช่วงที่ระบุนี้ หากมีปัญหาในขอบเขตงานที่ได้ตกลงไว้ (เช่น เว็บไซต์เกิด Error จากตัวโค้ดหลักเอง หรือฟีเจอร์ที่เคยใช้งานได้แล้วเกิดล่ม) เราจะแก้ให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • หลังหมดระยะเวลาที่กำหนด

    • หากเกิดปัญหาในอนาคต อาจคิดค่าบริการเป็น “รายเคส” หรือ “เหมาเป็นแพ็กเกจ Maintenance/Support” ต่อไป
    • เราอาจมีตัวเลือก “ต่ออายุ Support” ในรูปแบบรายเดือน/รายปี ในราคาเหมาะสมกับความถี่และปริมาณงานที่ลูกค้าต้องการ เช่น ถ้าลูกค้าอยากได้รับการดูแลระดับเดียวกับช่วงทดลอง (อีเมล + แชท + โทร) ตลอดทั้งปี ก็สามารถตกลงอัตราค่าบริการรายปีได้

5) ถ้าลูกค้าดูแลเองได้?

  • หากเป็นเว็บเล็กและไม่มีปัญหาทางเทคนิคบ่อย ๆ ลูกค้าอาจจัดการได้เองทั้งหมด เช่น ตรวจสอบสถานะ Hosting, ต่ออายุโดเมน, สำรองข้อมูล ฯลฯ
  • ในบางกรณีเว็บสแตติก (Static Website) หรือเว็บที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลบ่อย การดูแลอาจน้อยมากจนแทบไม่ต้องจ่าย Maintenance รายเดือน
  • อย่างไรก็ตาม ต้องระวัง “ความปลอดภัย” และ “การอัปเดต” บางส่วน เพราะหากเว็บถูกแฮกหรือไฟล์พังแล้วไม่มี Backup ล่าสุด ก็อาจเกิดความเสียหายที่แก้ไขได้ยาก

สรุปแนวทาง Maintenance & Support

  1. Maintenance ไม่ได้หมายถึงการดูแลทุกอย่างตลอดไปฟรี ๆ แต่เป็นข้อตกลงเฉพาะที่ระบุว่าทีมงานจะช่วยเฝ้าระวัง แก้ไข และอัปเดตเว็บให้ในระยะเวลาหนึ่ง หรือภายใต้สโคปใด
  2. Advanced Package รวม Maintenance 3 เดือน เพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงเริ่มต้น (อาจมี Bug หรือการปรับปรุงเล็กน้อย) แต่หลังจากนั้นหากต้องการต่ออายุหรือเพิ่มบริการ ต้องตกลงแยกต่างหาก
  3. Starter/Premium ไม่ได้แปลว่าไร้การดูแล แต่ไม่มีการดูแลระยะยาวแบบรวมในแพ็กเกจ หากต้องการ Maintenance ก็สามารถจ้างเพิ่มได้ตามลักษณะงาน
  4. Support ระยะเวลาสั้น ที่กำหนดไว้ในแต่ละแพ็กเกจ คือการรับประกันงานในสโคปที่ตกลงกัน หากพ้นช่วงเวลานั้นไป สามารถเลือกรูปแบบการจ่าย “รายเคส” หรือ “แพ็กเกจ Support/ Maintenance” ได้
  5. การเลือกแพ็กเกจ ควรพิจารณาความต้องการระยะยาวของธุรกิจ หากต้องการอัปเดตหรือแก้ไขเว็บบ่อย ๆ ควรเตรียมงบสำหรับ Maintenance หรือจ้างพนักงานไอทีดูแลภายในองค์กรเอง

ทั้งหมดนี้ เราออกแบบเพื่อความยืดหยุ่นและคุ้มค่า ทั้งฝั่งลูกค้าและทีมงาน ลองประเมินดูว่าเว็บไซต์ของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีความเสี่ยงทางเทคนิคมากน้อยแค่ไหน หากธุรกิจต้องการความมั่นใจเต็มที่ การทำ Maintenance แยก หรือเลือกแพ็กเกจ Advanced ที่รวมบริการ 3 เดือน ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าเว็บเล็กและพร้อมดูแลเบื้องต้นเองได้ ก็อาจเลือก Starter/Premium แล้วค่อยตัดสินใจภายหลัง หากเกิดความจำเป็นต้องขยายหรืออัปเกรดโซลูชันในอนาคตก็สามารถทำได้เช่นกันครับ!